Sweet Love จับหัวใจใส่ฟองครีม

Sweet Love จับหัวใจใส่ฟองครีม

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165010139
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 180.00 บาท 45.00 บาท
ประหยัด: 135.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

นายจ้างทรงเสน่ห์

 

 

บัณนรี สิรีสุวรรณ นั่งมองภาพนักร้องหนุ่มสุดฮอตแดนมังกรผ่านทางจอทีวี

ภายในคอฟฟีชอปของโรงแรมหรูย่านดังแห่งหนึ่งด้วยความสนใจใคร่รู้ เพราะข่าว ที่ปรากฏของซูเปอร์สตาร์วัยยี่สิบปลายๆ นามว่า หานฟง นั้นก็คือ การประกาศอำลา วงการอย่างปัจจุบันทันด่วนโดยไม่มีสาเหตุ จนกลายเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะ ทาวน์ และส่งผลให้บรรดาสาวกสาวทั่วทั้งเอเชียที่คลั่งไคล้เจ้าตัวถึงกับช็อกตาตั้ง เสียอกเสียใจ ร้องไห้ระงมไปตามๆ กัน

ไม่เว้น!...แม้แต่ตัวเธอเองที่รู้สึกใจหาย เพราะจะไม่ได้เห็นหน้าหล่อๆ ผ่าน ทางจอแก้วทุกวี่วันเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ด้วยหญิงสาวนั้นก็เป็นหนึ่งในบรรดา แฟนคลับของพ่อหนุ่มตี๋เมีองจีนคนนี้เช่นเดียวกัน

สาวไทยวัยเบญจเพสตั้งอกตั้งใจฟังข่าวคราวของดาราคนโปรดอย่างจริงจัง

จนลืมไปชั่วขณะเสยว่าวันนี้เธอมีนัดสำคัญกับเพื่อนสาว เกี่ยวกับ เรื่องงาน ซึ่งคนที่ เธอ

กำลังคอยท่าอยู่ตอนนี้ก็ยังเดินทางมาไม่ถึงสักที แถมปล่อยให้เธอต้องนึ่งหง่าวมา

เกือบชั่วโมงแล้วด้วยซํ้า แต่หญิงสาวก็มีได้รู้สึกอนาทรร้อนใจเท่าไหร่นัก เพราะเธอ

กำลังเพ่งความสนใจไปที่ข่าวในทีวีเพียงอย่างเดียว

กระทั่ง...บัณนรีได้ยินเสียงร้องทักของเพื่อนสาวจอมห้าวลอยกระทบมาเข้าหู

นั่นแหละ หญิงสาวจึงค่อยๆ ละสายตาจากภาพตรงหน้ามายังคู่นัดของเธอ

“ไงยายโบนัส นึ่งรอดูทีวีเพลินเลยสิ ขอโทษทีนะ รถมันติด ก็เลยมาสาย''

 

6

 

 

สุจิราตบไหล่เพื่อนสาวเบาๆ เป็นการขอโทษ

“อืม ไม่เป็นไร ฉันเองก็นั่งดูทีวีรอไปเรื่อยๆ น่ะ” บัณนรีพยักหน้ารับ ก่อนจะ

เอ่ยถามหาบุคคลสำคัญที่สุจิรานัดไว้

“แล้วไหนล่ะนายจ้างคนใหม่ของฉัน?”

“ฉันโทร. ไปเซ็กแล้ว กำลังแต่งตัวอยู่ เดี๋ยวก็คงจะลงมาแล้วละ” สุจิ'ราตอบ

ง่ายๆ

แม้จะรู้สึกหงุดหงิดหัวใจอยู่เล็กๆ ที่เธอถูกปล่อยให้คอยว่าที่เจ้านายอยู่นาน

สองนาน แต่บัณนรีก็ไม่มีทางเลือกมากนัก เมื่อเพื่อนสาวสุดเสมัยเรียนมัธยมอุตส่าห์

เฟ้นหางานชิ้นโบแดงมาวางล่ออยู่ตรงหน้าทั้งที แล้วเธอจะทำความฝืนของตัวเอง

พังด้วยการอาละวาดเพราะเรื่องแค่นี้เชียวหรือ...

ไม่มีทางซะละ'

เมื่อคิดได้ดังนั้น บัณนรีจึงเลือกที่จะนั่งเงียบๆ แล้วคิดทบทวนถึงโอกาส

งามๆ ที่เธอกำลังจะได้รับ หากการเจรจาในครั้งนี้สำเร็จผล แต่กระนั้นหญิงสาวก็อด

ประหม่าเล็กๆ ถึงคนที่เธอจะต้องร่วมงานด้วยไม่ได้ว่า

‘นายจ้างคนนี้จะเขี้ยวลากดินขนาดไหนกันนะ?'

เพราะสุจิรานั้นแค่เสนองานให้เธอทำในฐานะพาสทรีเซฟ ซึ่งเป็นค่าเรียก

หรูๆ สำหรับคนทำขนมนั่นเอง แต่เจ้าหล่อนยังมีได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลยว่า

เธอ ต้องเป็นลูกจ้างให้แก่ใคร? ร้านไหน? แล้วต้องเตรียมตัวทำอะไรบ้าง?

มีเพียงสิ่งเดียวที่เพื่อนเลิฟบอกเธอมา นั่นก็คือ...

“แกมาเจอตัวเจ้าของเขาวันนี้เลยก็แล้วกัน เพราะฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะบอก

ยังไงดี''

เพราะตอนนั้นสุจิราบอกกับเธอแค่'ว่า หล่อนรับงานนี้ต่อมาจากบริษัทของ

สุธีรัฐ ผู้เป็นพี่ชายแท้ๆ ของตนอีกที ซึ่งนายจ้างผู้สุดแสนจะไฮโซรายดังกล่าว

ได้ตกลงปลงใจใท้พื่ชายของเพื่อนสาวเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่างแทนเขา ในการ

เนรมิตร้านเบเกอรีแอนด์คอฟฟีชอปขนาดกลางให้เกิดขึ้น ณ ทำเลทองของแหล่ง

ศูนย์รวมวัยรุ่นในเมืองฟ้าอมรแห่งนี้

ดังนั้น สุจิราจึงต้องรับบทหนักคอยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยเหลืองานของ

พี่ชายเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องของการเลือกเฟ้นแม่ครัวหัวปา ที่เชี่ยวชาญในการ

เสกสรรปันแต่งรสชาติและสีสันของขนมหวานแสนอร่อย

 

7

 

 

ซึ่งแน่นอนว่า...งานนี้จึงตกเป็นของบัณนรีไปโดยปริยาย ด้วยเหตุผลสั้นๆ

ง่ายๆ ของเจ้าตัวเหมือนเดิมว่า

“ฉันเสนองานนี้ให้แกคนเดียวเลยนะ เพราะฉันอยากเห็นแกมีร้านซะที จะได้

ไม่ต้องทนนั่งเป็นนางชินก้นครัวอยู่แต่ในบ้าน คอยรับออร์เดอร์ทางโทรศัพท์ไปวันๆ''

บัณนรีเลยตัดสินใจยอมทิ้งลูกค้าที่ตนสะสมมาตลอดหนึ่งปีเต็มในการทำ

เบเกอรีโฮมเมด เพื่อกระโดดเข้ามารับงานชิ้นใหญ่นี้อย่างเต็มตัว เนื่องจากเธอเห็น

ด้วยกับคำพูดของเพื่อนสาวที่ว่า หากเธอมัวแต่หาลูกค้าอยู่กับบ้านเช่นนี้ สงสัยกว่า

จะเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำเพื่อเปิดร้านของตัวเอง คงต้องรอให้ถึงชาติหน้า

ที่สำคัญค่าแรงซึ่งเธอจะได้รับในคราวนี้ก็คุ้มแสนคุ้ม และมันก็มากพอ

จะทำให้เธอสามารถเป็นเจ้าของร้านเบเกอรีเล็กๆ แบบสบายๆ

ในขณะที่สาวนัยน์ตากลมโต แก้มยุ้ย ผิวขาวจัด กำลังนั่งคิดถึงอนาคตของ

ตัวเองไปเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น เสียงห้าวทุ้มชวนฟังที่เอ่ยออกมาเป็นภาษาอังกฤษสำเนียง

ดี ก็ดังชิ้นห่างไปทางด้านหลังของเธอเพียงเล็กน้อย ทำให้หญิงสาวหันไปมองทันควัน

“สวัสดีครับคุณจิ''

รอยยิ้มเก๋ไก๋ของคนพูดจุดชิ้นบนรีมผี!ปากเรียวเล็กน้อย ทว่าผิดแผกกับสาว

หน้าหวานที่กลับอ้าปากหวอ มองอีกฝ่ายตาค้าง

‘แยก!!!’

บัณนรีส่งเสียงร้องอยู่ภายในใจราวกับเป็นสิงกังด้วยความตะลึงงัน เมื่อภาพ

ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเธอก็คือ บุรุษที่หญิงสาวเพิ่งจะเสพข่าวของเขาผ่านทาง

หน้าจอทีวีไปหยกๆ นั่นเอง

“เฮ้ย!'' สาวไทยลุกชิ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแขนพ่อหนุ่ม

 ผู้แสนจะเพอร์เฟกต์ เพื่อพิสูจน์ว่านี่คือเรื่องจริงที่ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่ครั้นจะให้เธอ

บิดเนื้อตัวเองก็ดูจะเป็นการเจ็บตัวเปล่าโดยใช่ที่ หญิงสาวจึงอาศัยเนื้อขาวๆ ของ

อีกฝ่ายเป็นการทดสอบแทน

“โอ๊ย!'' ผู้เคราะห์ร้ายที่ไม่ทันระวังตัวร้องเสียงดัง กับการกระทำอันพิลึกพีลั่น

ของแม่สาวแปลกหน้า

“ยายโบนัส!'' ในขณะที่สุจิราเองก็ออกอาการหน้าเหวอ “ทำอะไรของแกน่ะ?!''

สาวห้าวร้องถามเพื่อนสนิทอย่างตื่นตระหนก เมื่อหล่อนแสดงกิริยาอันไม่ควร

แก่ลูกค้าของเธอ พร้อมทิ้งรีบดึงมือของบัณนรีออกจากชายหนุ่มโดยเร็วไว

 

8

 

 

“ขอโทษด้วยนะคะคุณเฮนรี่'' สุจิราเรียกชื่อกลางภาษาอังกฤษของเขาตาม

สากล เพื่อขอขมาลูกค้ารายใหญ่แทนเพื่อนสาวเป็นการด่วน

“ไม่เป็นไรครับ'' คนฟังตอบรับด้วยรอยยิ้มบางๆ โดยไม่นึกติดใจหรือถือสา

หาความแต่อย่างใด เพียงแค่อดนึกฉงนในใจไม่ได้ว่า

‘ทำไมหล่อนถึงได้มาหยิกแขนของเขาเสียเต็มแรง ราวกับคนละเมอแบบนี้!?'

อดีตนักร้องหนุ่มจึงแอบลอบจับปฏิกิริยาคนตรงหน้าอย่างเงียบๆ เพื่อค้นหา

คำตอบให้แก่ตัวเอง

แล้วอากัปกิริยาต่อมาของเจ้าหล่อนก็ทำให้เขาแทบจะล้มตัวหัวร่องอหงาย

อยู่ตรงนี้ โดยไม่เกรงกลัวว่าตนจะเสียภาพลักษณ์ของอดีตซูเปอร์สตาร์หรือนักบริหาร

หนุ่มเลยสักนิด เมื่อสาวแปลกหน้าใช้สองมือตบไปที่ใบหน้าตัวเองเบาๆ ราวกับจะ

เรียกสติคืนกลับมา เพราะคิดว่าการได้เห็นเขายินอยู่ตรงหน้า คือภาพแห่งความฝัน!

“หานฟังตัวจริงเหรอเนี่ย?'' บัณนรีร้องคราง ทำหน้าเหวอ

“ยายโบนัส รักษามารยาทหน่อยสิแก'' ร้อนถึงสุจิราต้องแอบยื่นมือมาสะกิด

เพื่อนสาวให้สงบสติอารมณ์เสียโดยเร็ว

ส่วนคนมาใหม่ที่เพิ่งโดนฤทธิ์เดชของแม่สาวหน้าหวานเช้าไป เลยได้แต่อมยิ้ม มองดูทำทางหลุดๆ ของเธอต่อไปด้วยความคิดที่ว่า

‘สงสัยเธอจะเป็นแฟนคลับเรา ก็เลยตกใจที่เห็นตัวจริง...'

เมื่อคิดได้ดังนั้น หานฟังจึงลอบสังเกตรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายด้วยความสนใจ

ในทันที

แล้วสิ่งที่เขาได้พบก็คือใบหน้าขาวนวลเนียนกับพวงแก้มยุ้ยอมชมพูอย่างคน

มีสุขภาพดี ที่มาพร้อมกับดวงตากลมโตสุกใสราวกับลูกกวางน้อย และเมื่อทุกอย่าง

กอปรกันอยู่บนดวงหน้ากลมมน ชายหนุ่มจึงอดที่จะสรุปกับตัวเองไม่ได้ว่า

‘เจ้าหล่อนเป็นผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์ชวนมองอยู่ไม่น้อยเสยทีเดียว'

หากแต่ความน่ามองของเธอนั้น มันกำลังถูกบั่นทอนด้วยความเป๋อเหลอ

ที่แสดงออกมาบนดวงหน้าหวานอย่างชัดเจน ทั้งดวงตาเบิกกว้างที่จับจ้องมองเขา

ราวกับเป็นสัตว์ประหลาดนอกโลก และกลีบปากสีชมพูสดที่อ้าด้างไว้ จนแมลงวัน

ทั้งฝูงสามารถบินเข้าไปทำรังอยู่ได้เสียแล้วละมั้ง

ทุกสิ่งที่ปรากฏแก่สายตา ล้วนแต่ทำให้ซูเปอร์สตาร์หนุ่มรู้สึกตลกขบขัน

เสียมากกว่าที่จะโมโหโกรธา

 

9

 

 

“ยายโบนัส! มัวยืนทำบื้ออะไรอยู่ล่ะ รีบขอโทษคุณเขาซะสิ'' สุจิราเอ็ดเพื่อน

 สาวเสียงเขียว ที่หล่อนเอาแต่ยืนเออร์เรอร์เหมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ตอบรับ

พร้อมทั้งรีบสะกิดแขนอีกฝ่ายให้คืนสติอย่างด่วนจี๋

สายตากรุมกริ่มระคนอบอุ่นและรอยยิ้มหวานบาดใจจากชายหนุ่มนั้น ทำเอา

บัณนรีแทบไม่อยากจะตื่นจากภวังค์เลยทีเดียว หากแต่เสียงห้าวๆ ของแม่เพื่อนสาว

ที่ทะลวงเข้ามายังโสตประสาท ก็เป็นเหมือนดั่งตัวฉุดกระชาก ทำให้สติสัมปชัญญะ

กลับคืนสู่เธออย่างรวดเร็ว

“อี,ะ! ขะ...ขอโทษค่ะ'' บัณนรีรีบก้มศีรษะแสดงความขอโทษขอโพยต่อผู้เสีย

หายด้วยความละอายทันที

“ไม่เป็นไรครับ'' หานพิงตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมด้วยใบหน้าอัน

อ่อนโยนดุจเดิม

“เรามาคุยเรื่องงานกันเลยดีไหมครับ?'' แล้วจึงแจ้งความจำนง “พอดีว่าช่วง

บ่ายนี้ผมยังมีนัดต่ออีก''

“ได้ค่ะ'' สุจิ'รายิ้มแห้งๆ ตอบกลับชายหนุ่มไป ก่อนจะหันมาแอบแยกเขี้ยว

ใส่เพื่อนสาว

“โชคดีนักนะแกที่คุณเขาไม่เอาเรื่อง ไม่ยังงั้นนะ งานนี้มีชวด!''

คนพูดกระซิบบอกคนทำผิด หญิงสาวเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ ผงกหัวหงึกๆ

รับผิดอย่างยอมจำนน

“คุณเฮนรี่คะ นี่พาสทรีเชฟ ชื่อโบนัสค่ะ'' สุจิราผายมือมาทางเพื่อนสาวของ

เธอ

“ถึงจะดูเอ๋อๆ ไปหน่อย แต่เรื่องฝีมือนี่จิรับรองได้เลยนะคะ'' พร้อมทั้งรีบ

แนะนำสรรพคุณของอีกฝ่าย เพื่อกลบเกลื่อนภาพลักษณ์แย่ๆ เมื่อครู่

“ครับ'' หานฟงหันมายิ้มหวานกระแทกนัยน์ตาของสาวไทยเข้าให้อย่างจัง ตาม

บุคลิกนิ่งๆ ของตน

“ส่วนนี่คุณหานพิง นายจ้างของเรา'' สาวห้าวรีบแนะนำผู้เป็นเจ้านายแก่เพื่อน

สาวต่อโดยพลัน

“สวัสดีค่ะคุณหานฟง'' บัณนรีรีบยกมือไหว้เขาด้วยทำทางเก้อเขิน เพราะเธอ

 นั้นได้แสดงท่าทีเปิ่นๆ อันน่าอับอายต่อหน้าต่อตาของเขาเมื่อครู่

 

 

“สวัสดีครับ เรียกผมว่าเฮนรี่เหมือนคุณจิก็ได้ จะได้ดูสนิทสนมกันหน่อย

 

 

 

 

 

 

นะครับ” หานฟงเสนอให้หญิงสาวเรียกชื่อกลางของเขาอย่างใจดี ซึ่งคนที่ได้รับเกียรติ

นั้นก็เพียงแต่ก้มหัวและพยักหน้าตอบรับน้อยๆ

“ไม่ทราบว่าคุณจิได้บอกรายละเอียดของงานกับคุณบ้างรึยังครับ?” นายจ้าง

ทรงเสน่ห์เอ่ยถาม

“พอจะทราบมาบ้างค่ะ” บัณนรีตอบแบบกลางๆ เอาไว้ก่อน เพราะหากบอกว่า

เธอนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทั้งตัวเธอและเพื่อนสาวอาจจะยิ่งคะแนนตกจากเมื่อกี้นี้

เข้าไปอีกอักโข

“อะไรบ้างครับ?” หนุ่มเจ้าเสน่ห์ซักยิ้มๆ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เขาถึงได้รู้สึกถูกชะตากับแม่สาวบ้องแบ๊วคนนี้เสีย

เหลือเกิน และมันก็ทำให้เขาอาจจะตัดสินใจรับเธอเข้าทำงาน ตั้งแต่ได้เห็นท่าทาง

ประหลาดๆ ของเธอก็เป็นได้ แต่ยังไงซะเขาก็ต้องสอบถามรายละเอียดส่วนต่างๆ

เพิ่มเติม เพื่อความมั่นใจเสียก่อนว่า...เขาเลือกคนทำงานไม่ผิด

“จิบอกว่าคุณจะเปิดร้านเบเกอรี แต่ไม่รู้ว่าคนไทยชอบรสชาติแบบไหน ก็เลย

อยากได้เซฟเป็นคนไทยค่ะ”

ในระหว่างที่สนทนากับชายหนุ่ม บัณนรีเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตากับเขาเลย

แม้แต่น้อย เพราะยังคงกระดากอายในความไร้มารยาทของเธออยู่ไม่หาย ซึ่งอีกฝ่าย

ก็ดู'จะเข้า'ใจ เลยไม่ได้กล่าวขัดคอสิ่งใด แล้วก็เพียงแต่นั่งฟังในสิ่งที่เธอพูดอยู่เงียบๆ

เท่านั้น

“ใช่ครับ ผมอยากได้เซฟเป็นคนไทย และถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมอยากให้คุณ

ช่วยคิดเมนูขนมของทางร้านทั้งหมด แต่ว่าสูตรพวกนั้นจะต้องเป็นลิขสิทธิ์ของผม

ตกลงไหมครับ”

เสียงนุ่มนวลฟังสบายกับใบหน้าอันอ่อนโยนนั้น ช่างขัดแย้งกับเล่ห์เหลี่ยม

แพรวพราวของนักธุรกิจเต็มตัวของเขาเป็นนักหนา เพราะข้อบังคับที่ชายหนุ่มกล่าว

ให้เธอทราบเบื้องต้น มันบ่งบอกได้ดีว่าเจ้าตัววางเกมในการค้าขายได้ฉลาดเฉลียว

เพียงใด และมันก็ห่างไกลกับหานฟงคนที่เธอเพิ่งดูในทีวีมากมายขนาดไหน

บัณนรีจึงนิ่งเงียบใช้ความคิดอยู่เพียงครู่กับข้อเสียเปรียบนี้

‘เฮ้อ! อะไรมันจะเขี้ยวขนาดนี้

แตกนะ...ก็เขาเป็นนายจ้างนี่นา ไม่ใช่ดาราอย่างที่เราเห็นเมื่อกี้สักหน่อย

ช่วยไม่ได้...ถ้าอยากได้เงินเปิดร้าน เราก็ต้องทำ'

 

 

ดังนั้นหญิงสาวเลยตอบตกลงกับเงื่อนไขอันนั้น “ได้ค่ะ” พร้อมกับปลงตก

ในใจต่อไปว่า

‘สงสัยไอ้ที่คนเขาบอกกันว่า ดาราตัวจริงเค็มซะยิ่งกว่าเกลือ...ท่าจะเป็นเรื่อง

จริงแฮะ'

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็คงไม่รังเกียจ ถ้าผมจะให้คุณมาอบขนมที่บ้านของผม”

หานฟงเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม โดยมิได้คาดหวังถึงค่าปฏิเสธอันใดจากหญิงสาวทั้งสิ้น

‘อ๊ายยย...จะให้ฉันบุกไปถึงบ้านของคุณเลยเหรอคะ!?'

สาวแบ๊วถึงกับท่าตาโตอีกครั้ง เมื่อได้รับฟังค่าเชื้อเชิญที่ชวนให้สงสัยเสีย

เหลือเกินนั้น ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นทีท่าอึกอัก ประดักประเดิด ไม่รู้จะตอบชายหนุ่ม

กลับเช่นไรดี เพราะหากเธอยินยอมไปมาหาสู่บ้านชายแปลกหน้าอย่างง่ายดายละก็

มันคงจะท่าให้สาวไทยหัวใจงามแบบเธอต้องดูมัวหมองเป็นแน่แท้

คนมองที่พอจะรู้ความนัยของอีกฝ่าย จึงริบแกไขความเข้าใจผิดให้เป็น

การด่วน

“พอดีว่าครัวที่ร้านของผมยังไม่เสร็จน่ะครับ เลยต้องรบกวนให้คุณไปท่าขนม

ที่บ้านของผมแทนก่อน”

‘เออ...เริด! กลัวฉันจะแอบเอาสูตรไปขายรึไงยะ ถึงต้องคุมกันแจขนาดนั้น'

ทั้งที่บัณนรีรู้สึกไม่ชอบใจเล็กๆ แต่ด้วยทางเลือกที่แทบจะไม่มีเลย รวมทั้ง

เม็ดเงินอีกจำนวนมหาศาลจากค่าตอบแทน ท่าให้หญิงสาวพยักหน้ารับอีกครั้งอย่าง

ไม่ลังเล

“ค่ะ”

“งั้นก็โอเค ผมรับคุณเข้าท่างาน” หานฟังตกลงใจรับสาวไทยเป็นลูกจ้างทันที

พร้อมทั้งเอ่ยสั่งการต่อไปว่า

“พรุ่งนี้เจอกันที่นี่อีกทีนะครับ แล้วผมจะพาคุณไปสำรวจครัวของเราก่อนว่า

มีอะไรขาดเหลือบ้างไหม จะได้ชื้อเพิ่มเติมทีเดียวเลย”

“คะ!?” ค่าตอบรับอย่างง่ายดายนั้น ท่าให้บัณนรีถึงกับออกอาการเหลอหลา

อีกครั้ง ก่อนจะย้อนถามเขาเสียงแผ่วอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“คุณว่าอะไรนะคะ?”

“คุณเฮนรี่เขาบอกว่ารับแกเข้าท่างานแล้ว ยายเอ๋อเอ๊ย'' หากคนที่ช่วยไขข้อ

สงสัยแก่บัณนรีกลับกลายเป็นสาวห้าว ซึ่งคอยนั่งให้กำลังใจและร่วมลุ้นอยู่ข้างๆ

 

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 


 

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024